บทความทั่วไปบ้านและสวน

ซื้อบ้านกับธอส

ซื้อบ้านกับธอส ที่ทำให้คนไทยมีบ้าน

การจะตัดสินใจขอ ซื้อบ้านกับธอส สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ การศึกษาข้อมูล และเข้าใจรูปแบบ ของการกู้ซื้อ บ้าน ให้ครบถ้วนก่อน เพื่อจะช่วยให้คุณได้รับสินเชื่อบ้านที่คุ้มค่า และยังช่วยให้การอนุมัติสินเชื่อนั้น ผ่านฉลุยได้เร็วขึ้นด้วย

ในบทความนี้ พูลวิลล่า เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยว กับการขอสินเชื่อ บ้าน และโครงการสินเชื่อบ้าน เพื่อคนทุกลุ่มอาชีพ ที่คุณสามารถเลือกให้ตอบโจทย์และเหมาะสม กับสภาพคล่องทางการเงิน ของคุณมากที่สุดเอาไว้แล้ว

ซื้อบ้านกับธอส

รู้จักกับ สินเชื่อซื้อบ้านกับธนาคารอาคารสงเคราะห์

สำหรับ สินซี้อเชื่อบ้าน คือ เงินกู้ชนิดหนึ่งที่ทางธนาคาร ปล่อยกู้ให้กับผู้กู้ในระยะยาว ซื้อบ้านกับธอส โดยจะใช้ที่อยู่อาศัยที่จะซื้อมาจำนองเอาไว้ และในแต่ละโครงการของธนาคารนั้น ก็จะมีวัตถุประสงค์ของสินเชื่อบ้านต่างกันออกไป เช่น 

  • สำหรับขอสินเชื่อเพื่อนำไปซื้อที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว คอนโด ทาวน์เฮาส์/ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ 
  • สำหรับขอสินเชื่อเพื่อนำไปซื้อที่ดิน
  • สำหรับขอสินเชื่อเพื่อนำไป ปลูกสร้าง/ซ่อมแซม/ต่อเติม/ตกแต่งบ้าน
  • สำหรับขอสินเชื่อเพื่อนำไปซื้อบ้านมือสอง

สำหรับธนาคารอาคารสงเคราะห์ เป็นธนาคารที่ดีที่สุดสำหรับคนที่อยากมีบ้าน ช่วย เติมเต็มความฝันเพื่อคนอยากมีบ้าน โดยสินเชื่อของธนาคารมีบริการสินเชื่อบ้าน แบบครบวงจร ที่ตอบโจทย์ของคนอยากมีบ้านและครอบคลุม ทุกค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน คอนโด ที่ดินพร้อมปลูกสร้าง หรือว่าจะกู้เงินเพื่อซ่อมแซม/ต่อเติม/ตกแต่งบ้าน ก็สามารถทำได้ภายใต้เงื่อนไขของธนาคาร

การขอสินเชื่อซื้อบ้านกับ ธอส. ให้ความคุ้มค่าอย่างไร?

ในความคุ้มค่าที่คุณจะได้รับจากการขอสินเชื่อบ้านกับ ธอส . นั่นคือ อัตราดอกเบี้ย ที่สมเหตุสมผล เนื่องจากเราเป็นธนาคารเพื่อคนอยากมีบ้าน โดยเฉพาะ ทำให้อัตราดอกเบี้ยของเรามีราคาต่ำกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการขอสินเชื่อบ้าน กับธนาคารอื่นๆ และยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ให้กับคุณได้มากขึ้น ด้วยการยืดระยะเวลาผ่อนชำระได้ยาวนานที่สุดถึง 40 ปี 

จากนี้ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสินเชื่อเพื่อการซื้อบ้าน ภูเก็ตวิลล่า ธอส. ยังมีบริการให้คำปรึกษา เกี่ยวกับสินเชื่อบ้านที่ครบวงจรแบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่คอยให้คำแนะนำ เปรียบเทียบ และช่วยหาข้อเสนอที่คุ้มค่ากับคุณได้มากที่สุด 

ซึ่งก่อนที่จะใช้บริการปรึกษาสินเชื่อบ้านกับ ธอส. คุณสามารถเรียนรู้ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนปรึกษาสินเชื่อบ้าน แล้วเริ่มใช้บริการได้เลย ดูแลบ้าน

สินเชื่อบ้านที่ ธอส. เหมาะกับใครบ้าง?

สิ่งที่ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” เป็นพันธกิจของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่ช่วยสนับสนุนการ มีที่อยู่อาศัยของคนไทยทุกคนให้เป็นจริง 

โดยธนาคาร มีโครงการสินเชื่อที่ออกแบบมาให้เหมาะสม กับเงื่อนไขของคนแต่ละสายอาชีพ  และเปิดกว้างให้กับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยหลากหลายกลุ่ม ซึ่งได้แก่

1. กลุ่มผู้มีรายได้ประจำทั่วไป

สำหรับประชาชนคนวัยทำงานทั่วไปหรือ พนักงานบริษัทเอกชนที่มีรายได้ประจำ ที่กำลังเริ่มต้นสร้างครอบครัวด้วยการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง 

ซึ่งสามารถขอสินเชื่อบ้านกับ ธอส. สำหรับลูกค้าทั่วไปได้ โดยใช้หลักฐานแสดงที่มาของรายได้อยู่ในระบบ ได้แก่ ใบรับรองเงินเดือน / หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ, สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานการรับเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน และ สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 3 เดือน

2. กลุ่มบุคลากรภาครัฐ

สำหรับบุคลากรภาครัฐ ซึ่งได้แก่ ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงาน/เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ชื่อเรียกอย่างอื่น และลูกจ้างประจำ ที่เป็นผู้มีสิทธิขอกู้เงินตามคำนิยามในข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยประเภทไม่มีเงินฝาก

ที่สามารถขอ สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ กับ ธอส. ได้ โดยใช้เอกสารทางการเงินในการยื่นกู้ ได้แก่ ใบรับรองเงินเดือน / หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ, สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานการรับเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน และ สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 3 เดือน

3. กลุ่มผู้มีรายได้น้อย

ประชาชนทั่วไปที่มีรายได้ต่อเดือนน้อย แม้มีงบประมาณจำกัด ก็มีบ้านเป็นของตัวเองได้ ด้วย สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ จาก ธอส. สินเชื่อเฉพาะที่เอื้อประโยชน์สำหรับคนรายได้น้อย เพื่อสนับสนุนให้คนไทยสามารถมีบ้านได้โดยไม่ต้องแบกรับภาระหนัก 

ซึ่งโดยธนาคารจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้กับผู้ยื่นกู้ ที่มีรายได้ต่อเดือนน้อย จากการดูปัจจัยหลักดังนี้

  • สำหรับรายการเดินบัญชี หรือ สเตทเม้น (Statement) เพื่อดูความเคลื่อนไหวของเงินหมุนเวียนในบัญชีแต่ละเดือน ทั้งรายได้ที่เข้ามา และข้อมูลรายการฝาก-ถอนที่มีวินัย
  • สำหรับประวัติการชำระหนี้ หรือ เครดิตบูโร ซึ่งธนาคารจะทำการตรวจเช็กประวัติการชำระหนี้ของผู้ยื่นกู้กับ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (National Credit Bureau) เพื่อดูประวัติการค้างชำระหนี้ว่าจ่ายตรงเวลา หรือค้างชำระบ่อยหรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อการพิจารณาการอนุมัติสินเชื่อจากทางธนาคารด้วย
  • ในอัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ (Debt Service Ratio) เป็นส่วนที่ทางธนาคารใช้พิจารณาว่าผู้ยื่นกู้มีความสามารถในการจ่ายหนี้คืนมากแค่ไหน ซึ่งสัดส่วนที่เหมาะสมคือ ภาระหนี้ทั้งหมด รวมกับ ภาระหนี้สำหรับการกู้บ้านครั้งนี้ ต้องไม่เกิน 30% – 40% ของรายได้ต่อเดือน

ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทางธนาคารใช้พิจารณาอนุมัติสินเชื่อบ้าน จะเห็นว่าไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนรายได้ที่น้อย แต่จะให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของการชำระหนี้มากกว่า

ถ้าหากยังไม่รู้จะเลือกสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำอย่างไรให้เหมาะสมต่อรายจ่ายในแต่ละเดือน อ่านต่อ: เงินเดือนน้อย เลือกสินเชื่อบ้านอย่างไรดี

ตัวอย่างโครงการสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ สำหรับผู้มีรายได้น้อยจาก ธอส.

สำหรับ โครงการบ้านคนละหลัง สินเชื่อบ้านที่เหมาะกับประชาชนทั่วไปที่มีรายได้ ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน ทั้งที่เป็นพนักงานประจำ หรือประกอบอาชีพอิสระ โดยได้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 2,000,000 บาทต่อราย/ต่อหลักประกัน 

สำหรับ โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก สินเชื่อบ้านที่เหมาะกับประชาชนทั่วไปที่มีรายได้ ไม่เกิน 35,000 บาทต่อเดือน ทั้งที่เป็นพนักงานประจำ และประกอบอาชีพอิสระ โดยได้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3,000,000 บาท

สำหรับ โครงการบ้านล้านหลัง สินเชื่อบ้านที่เหมาะกับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ โดยเป็นกลุ่มคนวัยทำงานหรือประชาชนที่กำลังเริ่มต้นสร้างครอบครัว ซึ่งจะได้วงเงินสูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 1,200,000 บาท

ซื้อบ้านกับธอส

4. กลุ่มผู้ประกอบการ

ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ต้องการขอสินเชื่อเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ทั้งในการปลูกสร้าง ต่อเติม ปรับปรุง ซ่อมแซม ไม่ว่าจะเป็นอพาร์ทเม้นท์ หรือบ้านเช่า

ที่สามารถขอ สินเชื่อผู้ประกอบการ กับ ธอส. ได้ โดยใช้หลักฐานทางการเงิน เช่น รูปถ่ายกิจการ, หลักฐานการชำระภาษี, บัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน เป็นต้น 

ในการขอสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ กรณีปลูกสร้างและไถ่ถอนจะมีการขอเอกสารเพิ่มเติมที่ต้องใช้ในการยื่นกู้ด้วย เช่น ใบเสนอราคา สัญญารับเหมาก่อสร้าง, สัญญากู้เงิน / สัญญาจำนอง ทุกฉบับ, สัญญาจะซื้อจะขาย เป็นต้น

5. กลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ

ซึ่งผู้ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งได้แก่ พ่อค้า แม่ค้า ฟรีแลนเซอร์ หรือรับจ้างทั่วไป ที่มีรายได้ต่อเดือนไม่สม่ำเสมอ ธอส. ก็มีโครงการสินเชื่อหลากหลายที่เปิดให้กู้กับทางธนาคารได้ เหมือนกับกลุ่มผู้มีรายได้ประจำทั่วไป 

ซึ่งใช้หลักฐานทางการเงิน เช่น สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน/ หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ (พร้อมเอกสารฉบับจริง), สำเนาทะเบียนการค้า/ทะเบียนบริษัท/ ห้างหุ้นส่วน, หลักฐานการเสียภาษีเงินได้, รูปถ่ายกิจการ เป็นต้น

คุณสมบัติทางการเงินของผู้ยื่นกู้ไม่ผ่านเกณฑ์การขอสินเชื่อ จะทำอย่างไร?

สำหรับผู้ยื่นกู้ไม่สามารถแสดงหลักฐานแหล่งที่มาของรายได้ หรือมีคุณสมบัติทางการเงินที่ไม่ผ่านเกณฑ์ ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ก็มี โครงการโรงเรียนการเงิน ที่ช่วยในการวางแผนและฝึกวินัยในการเก็บออม พร้อมกับช่วยวางแผนทางการเงินให้พร้อมสำหรับการขอสินเชื่อ 

ซึ่งโดยทางธนาคารจะให้ผู้ยื่นกู้จัดทำสมุดบัญชีรับ – จ่ายรายวัน ตามแบบฟอร์มธนาคารไม่น้อยกว่า 9 เดือน พร้อมกับเปิดบัญชีเงินฝากและฝากเงินอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำมาแสดงเป็นหลักฐานแสดงการมีอยู่ของรายได้ และเก็บหลักฐานเพื่อแสดงที่มาของรายได้ เช่น ใบเสร็จรับเงิน สัญญาเช่าแผงค้าขาย เป็นต้น

6. สินเชื่อบ้านสำหรับครอบครัว

ถ้าครอบครัวที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ก็สามารถขอสินเชื่อเพื่อบ้านประเภทกู้ร่วมกันระหว่าง พ่อ แม่ และลูก เพื่อสร้างความมั่นคงจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยโครงการสินเชื่อบ้าน 2 GEN จาก ธอส. วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 2,500,000 บาท ต่อราย ต่อหลักประกัน (ราคาตามสัญญาจะซื้อจะขาย และ / หรือค่าก่อสร้าง) 

ซึ่งผู้ที่ขอสินเชื่อ 2 GEN จะต้องเป็นประชาชนทั่วไปที่มีอายุไม่เกิน 55 ปี และขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยโดยกู้ร่วมกับบุตรที่บรรลุนิติภาวะ หรือยังไม่บรรลุนิติภาวะที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป 

ยังสามารถขอกู้ในระยะเวลานานกว่า 40 ปี ได้ โดยมีเงื่อนไขว่าอายุของลูกที่กู้ร่วมเมื่อรวมกับระยะเวลากู้ต้องไม่เกิน 70 ปี เพื่อขยายกำลังในการผ่อนชำระให้มากขึ้น และลดภาระในการผ่อนชำระค่างวดในแต่ละเดือนลง

7. สินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุ 

ในกรณีผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปี แต่ไม่เกิน 80 ปี ที่ต้องการกู้ยืมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ หรือมีรายได้ไม่เพียงพอใช้จ่าย ธอส. มีโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage : RM) 

เป็นการให้สินเชื่อแบบย้อนกลับ ในวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท วิลล่าภูเก็ตที่ขาย ต่อราย / ระยะเวลาการกู้อย่างน้อย 6 เดือน และสูงสุดไม่เกิน 25 ปี โดยอายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาขอกู้ต้องไม่เกิน 85 ปี

ซึ่งผู้ขอสินเชื่อต้องนำที่อยู่อาศัยที่ปลอดภาระจำนองมาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ และธนาคารจะจ่ายเงินเข้าบัญชีผู้กู้ทุกเดือน จนเมื่อครบกำหนดจ่ายเงินทุกงวดแล้ว ผู้กู้ยังสามารถอยู่อาศัยต่อในหลักประกันได้จนกว่าจะเสียชีวิต


อ่านบทความที่หน้าสนใจ : แบบบ้าน Villas Phuket รีวิวบ้าน phuket property บ้านเดี่ยว POOL VILLA บ้านจัดสรร PHUKET VILLA

อ่านบทความเพิ่มเติ่ม : ขายวิลล่าภูเก็ต ขายบ้านภูเก็ต invest in phuket property phuket villa for sale phuket village village phuket รีวิวบ้าน ขายวิลล่าภูเก็ต ขายบ้านภูเก็ต ซื้อบ้าน ตกแต่งบ้าน วิลล่าราคาถูกภูเก็ต วิลล่าภูเก็ตที่ขาย

ซื้อวิลล่า ภูเก็ต Sale Villas Phuket (RU)