หลังคาบ้าน มีกี่จำพวกมุงหลังคาแบบไหนดี

หลังคาบ้าน นับว่าเป็นส่วนสำคัญของบ้านที่มีส่วนช่วยให้บ้านสุขสบาย และก็ช่วยคุ้มครองจากแดด ลม ฝน รวมทั้งลักษณะอากาศที่เปลี่ยนอย่างเร็วอีกด้วย และก็เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้กำเนิดปัญหาความทรุดโทรมที่จำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมในคราวหลัง ควรที่จะเลือกช่างที่มีความรู้ความสามารถความเก่งสำหรับเพื่อการสร้างหรือมุงหลังคา ที่สำคัญเป็นเลือกทรงหลังคาที่เหมาะสมกับสไตล์การออกแบบบ้าน ดังนี้หลังคามีหลายหมวดแล้วก็มีทรงที่ต่างกันออกไป แล้วควรที่จะเลือก หลังคา บ้านแบบไหนดี ไอ้เข้มีความสามารถดีๆมาฝากกัน!

แบบ หลังคาบ้าน เลือกแบบไหนดีให้เหมาะสมกับบ้าน?

1. หลังคาทรงจั่ว

หลังคาบ้านทรงจั่ว (Gable Roof) เป็นจำพวกหลังคายอดนิยม โดยมาพร้อมทรงมาตรฐานที่เหมาะสมกับแบบบ้านทั่วๆไป ใช้ได้กับทุกภูมิภาค มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมหน้าจั่วสามเหลี่ยมทอดยาวลงมาตลอดตัวหลังคา โดยหลังคาทั้งคู่ด้านจะเอียงทั้งคู่ด้านชนกันที่ปลายสุดข้างบนหลังคา เหมาะสมกับบ้านสไตล์โมเดิร์นหรือบ้านสไตล์ร่วมยุคทั่วๆไป

จุดเด่น: ช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นกับการรั่วซึมก้าวหน้า ด้วยเหตุว่ามีมุมองศาที่เอียงพิเศษ หากแม้มีฝนตกแต่ว่าน้ำก็ไหลลงข้างล่างได้รวดเร็วทันใจ ทั้งถ้าหากดีไซน์ให้มีช่องที่มีไว้ระบายอากาศเสริม ก็สามารถที่จะช่วยให้ระบายความร้อนเจริญเพิ่มขึ้น
จุดบกพร่อง: ถ้าหากฝนตกในแนวทางลมที่หันไปสู่จั่วบ้าน อาจก่อให้น้ำฝนกระเด็นเข้ามาข้างในรอบๆบ้าน ด้วยเหตุดังกล่าวควรจะชิดกันสาดเพิ่มอีก

2. หลังคาทรงปั้นหยา

หลังคาทรงปั้นหยา (Hip Roof) เป็นอีกหนึ่งชนิดหลังคาบ้าน ยอดนิยมเป็นอย่างมาก โดยมีลักษณะครอบคลุมทุกทิศทุกทาง มีมุมเอียงน้อยกว่าหลังคาทรงจั่ว แต่ว่ามีลักษณะเด่นที่จุดยอดของแต่ละด้านเป็นทรงเหลี่ยมหันอิงเข้าพบกัน ซึ่งเข้าได้แทบทุกสไตล์ของการออกแบบบ้าน โดยเอามาประยุกต์ได้กับบ้านหลายแบบ ยกตัวอย่างเช่น บ้านสไตล์โมเดิร์น บ้านทรงไทยปรับใช้

จุดเด่น: หลังคาแข็งแรง มั่นคง ด้วยเหตุว่ามีองค์ประกอบบรรจบกันที่ข้างบน ป้องกันแสงแดดกันฝนได้ดิบได้ดี เพราะว่ามีมุมลาดครอบคลุมตัวบ้านได้ทั่วทิศ
จุดอ่อน: มีจุดเชื่อมต่อมากยิ่งกว่าหลังคาแบบอื่น จึงควรใช้บริการช่างที่มีฝีมือ ไม่งั้นบางทีอาจกำเนิดปัญหารั่วซึมได้ง่าย

3. หลังคาทรงมะนิลา

หลังคาทรงมะนิลา (Manila Roof หรือ Dutch Gable Roof) เป็นชนิดแบบหลังคาที่ผสมระหว่างหลังคาทรงปั้นหยารวมทั้งสามเหลี่ยมหน้าจั่วเข้าด้วยกัน เป็นหลังคาบ้านที่เหมาะสมกับลักษณะอากาศร้อนแล้วก็ฝนตกชุกอย่างเมืองไทย นิยมจัดตั้งให้มีชายคายื่นออกมาเพื่อป้องกันแสงแดดฝนได้รอบทิศ วิลล่าภูเก็ต เหมาะสมกับบ้านที่ตกแต่งสไตล์แบบร่วมยุค บ้านสไตล์โมเดิร์น บ้านทรงไทยปรับใช้ ไปจนกระทั่งบ้านสไตล์วัวโลเนียล

จุดเด่น: แข็งแรง คงทน รับกระแสลมได้ดิบได้ดี ช่วยป้องกันแสงแดดแล้วก็ฝนจากข้างนอกเจริญ ถ้าหากจัดตั้งระแนงระบายอากาศร่วมด้วย จะช่วยลดอุณหภูมิข้างในบ้าน
ข้อตำหนิ: เป็นหลังคาที่เกิดการรั่วซึมได้ง่าย เหตุเพราะมีทรงที่สลับซับซ้อน

4. หลังคาทรงแบน

หลังคาทรงแบน (Flat Roof) หรือหลังคาเปลือย เป็นหลังคาบ้านที่มาพร้อมต้นแบบที่มีความโมเดิร์นและก็ล้ำสมัย มีลักษณะเป็นหลักที่แบนราบอยู่ในราบเดียวกัน นิยมใช้กับบ้านที่เป็นทาวน์โฮม หรือทาวน์เฮาส์ หรือบ้านสไตล์โมเดิร์นที่ย้ำการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงบ้านสไตล์ทคอยปิคอลโมเดิร์น

จุดเด่น: ออกแบบเด่น ล้ำยุค ใช้รอบๆพื้นหลังคาข้างบนเป็นดาดฟ้า หรือมุมพักแบบส่วนตัวได้ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้านให้เพิ่มมากขึ้น
จุดบกพร่อง: ได้โอกาสมีการรั่วซึม ถ้าไม่ทำกันซึมให้ตามมาตรฐานหรือปรับพื้นให้เอียงเพื่อระบายน้ำ

5. หลังคาทรงเพิงหมาแหงน

หลังคาทรงเพิงหมาแหงน (Lean-to Roof) เป็นหลังคาที่ปรับให้เรียบเอียงไปเพียงแต่ด้านเดียว มักมีชายคายื่นออกมาช่วยบังแดดบังฝน นิยมใช้กับบ้านสไตล์โมเดิร์นที่ดีไซน์เป็นทรงเหลี่ยม ช่วยทำให้ภาพรวมของบ้านมองโก้แม้กระนั้นเรียบง่าย โดยหลังคาบ้านประเภทนี้นำไปประยุกต์กับบ้านสไตล์อื่นอย่างบ้านสไตล์เนเชอรัลได้อีกด้วย โดยควรจะวางแบบให้เกี่ยวข้องกัน จะมองงามพอดี

จุดเด่น: ช่วยทำให้บ้านงดงาม มีเอกลักษณ์ องค์ประกอบหลังคาไม่สลับซับซ้อน จัดตั้งได้รวดเร็วทันใจ ช่วยอดออมค่าเหนื่อยและก็ค่าวัสดุก่อสร้าง
ข้อด้อย: ไม่อาจจะปกป้องความร้อนจากข้างนอกบ้านได้ดิบได้ดีซักเท่าไหร่ รวมทั้งแม้ไม่ดีไซน์ความลาดเอียงให้ดีจะมีความเสี่ยงต่อการรั่วซึมได้

6. หลังคาทรงปีกผีเสื้อ

หลังคาทรงปีกผีเสื้อ (Butterfly Roof) เป็นการนำหลังคาทรงเพิงหมาแหงนมาเกาะติดกัน มีลักษณะเงยออกอีกทั้ง 2 ด้าน ภายนอกเป็นมุมสูง ส่วนกึ่งกลางจะเป็นมุมต่ำ เช่นเดียวกับผีเสื้อที่กำลังกระพือปีกบิน มีทรงที่ดูดีมีความนำสมัย กับการออกแบบบ้านสไตล์โมเดิร์น หรือสไตล์เนเชอรัล

จุดเด่น: วางแบบประหลาดตา ช่วยทำให้บ้านมองมีเอกลักษณ์ส่วนตัวมากเพิ่มขึ้น รองรับน้ำฝนได้ดีมากว่าหลังคาชนิดอื่น
ข้อด้อย: จำต้องจัดตั้งรางระบายน้ำเพิ่ม เนื่องจากว่าน้ำฝนจะมารวมกันกึ่งกลาง ถ้าเกิดไม่ทำระบบระบายน้ำให้ดี จะได้โอกาสรั่วซึมได้

7. หลังคาทรงโค้งกลม

เป็นผลมาจากผืนหลังคาหลายๆด้านลาดขึ้นไปพบกันข้างบนสุด มีอีกทั้งแบบทรงหกเหลี่ยม (Hexagonal Roof) รวมทั้งแบบแปดเหลี่ยม (Octagonal Roof) โดยหลังคาจำพวกนี้เข้ากันได้กับบ้านสไตล์คลาสสิก นิยมใช้กับพื้นที่เฉพาะส่วนข้างในบ้าน ตัวอย่างเช่น ห้องโถง ศาลา หรือ ร้านอาหารภูเก็ต

จุดเด่น: ป้องกันแสงแดดกันฝนได้จากทุกด้าน แบบเฉพาะไม่มีใครเหมือน ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับบ้านได้อย่างดีเยี่ยม
ข้อผิดพลาด: จำต้องวางแบบส่วนประกอบให้ดี เพื่อหลังคารับน้ำหนักได้โดยสวัสดิภาพ

8. หลังคาทรงโดม

หลังคาทรงโดม (Dome Roof) เป็นหลังคาที่มีลักษณะโค้งมน งอนงาม สามารถเลือกใช้สิ่งของมุงหลังคาบ้านได้หลายจำพวก อย่างเช่น กระเบื้องโมเสค แผ่นกระเบื้อง โดยเลือกขึ้นรูปได้ด้วยอุปกรณ์หลายแบบ อย่างเช่น คอนกรีตเสริมใยแก้ว เหมาะกับบ้านสไตล์คลาสสิค หรือบ้านสไตล์ยุโรปที่อยากความสวยหรู น่าดึงดูด

จุดเด่น: ช่วยเพิ่มความสวยหรู โออ่า ให้กับตัวบ้าน เพิ่มความน่าดึงดูดใจให้กับภาพรวมของบ้านได้อย่างดีเยี่ยม
จุดอ่อน: ได้โอกาสรั่วซึมสะกดรอยต่อองค์ประกอบได้ง่าย ควรจะทำกันซึมให้ตามมาตรฐาน